วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ รางน้ำฝน

ประโยชน์ รางน้ำฝน

รองรับน้ำฝน

รางน้ำฝน นั้นจะเป็นตัวที่รองรับน้ำที่ตกลงมาจากหลังคา ซึ่งจะมีเกือบทุกหลังคา เพราะประเทศเราอยู่พื้นที่ร้อนชื่น ก็เลยต้องมีที่รองรับน้ำฝน นั้นก็คือรางน้ำฝน นั่นเอง เพื่อรองรับน้ำฝนไว้ใช้ตลอดทั้งปี และในในปัจจุบันก็มีบริการการติดรางน้ำฝน ให้ถึงที่ โดยที่เราไม่ต้องยุ่งยากติดเอง ก็จ้างบริษัทมาติดตั้งให้เสร็จเรียบร้อย เพื่อความสะดวก

ป้องกันตัวบ้าน

เมื่อฝนตกกระทบลงพื้นดินหรือพื้นคอนกรีตจะกระเด็นไปถูกผนังอาคารทำให้คราบ สกปรกติดบนผนังและเมื่อคราบสกปรกดังกล่าวถูกทิ้งไว้เป็นระยะเวลาอันยาวนานก็ จะสะสมคราบตะไคร้ เชื้อราต่างๆ ส่งผลให้โครงสร้างอาคารเสียหายได้ จากภาพถ่ายจะเห็นได้ว่าขอบพื้นผนังอาคารไม่ได้ติดตั้งขอบผนังเพื่อป้องกัน คราบน้ำและคราบสกปรกจากพื้น ทำให้ผนังคอนกรีตถูกทำลายด้วยคราบตะไคร้และเชื้อรา แสดงให้เห็นถึงความเสียหายของพื้นผนังบ้าน ความเสียหายจากการกระเด็นของน้ำและการเซาะกร่อนของซีเมนต์

ติดตั้งรางน้ำฝน โทร 087-507-5850

การเลือกใช้รางน้ำฝนสำหรับที่พัก

การเลือกใช้รางน้ำฝนสำหรับที่พัก

  • รางนํ้าฝนที่สะบายต่อการดูแลรักษา
  • แข็งแรง
  • ทาสีเพื่อให้ทนทานเเพื่อการใช้งานที่ยาวนาน
  • รางนํ้าฝนเหมาะกับที่อยู่อาศัยได้ประสิทธิภาพ.

ติดตั้งรางน้ำฝน

ติดตั้งรางน้ำฝน,ท่อน้ำฝนให้ที่อยู่อาศัย

รางน้ำฝนไม่ผุ ยังสามารถรับปริมาณน้ำฝนได้มาก

รางน้ำฝนลดปัญหาน้ำล้นราง ช่วยถนอมสีหรือเชิงของที่อยู่อาศัยให้คงทนสวยสวยสด

รางน้ำฝนตามขนาดของไม้เชิงที่อยู่อาศัยโดยไม่ต่อเติมรางน้ำฝนหมดจุดด้อยเช่น

รางน้ำฝนซึมรั่วระหว่างราง, รางกร่อนผุ, รางกรอบร่อน

เพราะรางน้ำฝนด้วยความร้อนจากแสงดวงอาทิตย์ ช่วยถนอมให้สวย

ราวกับรางน้ำฝนของที่อยู่อาศัยทำให้น้ำระบายได้เร็ว ด้วยรางน้ำฝน


ทางเลือก รางน้ำฝน กับที่พัก

รางน้ำฝนเป็นสิ่งต้องมีในที่อยู่อาศัยเมื่อยามหน้าฝนรางน้ำฝนจะช่วยระบายน้ำจากบนยอดอาคารให้น้ำลงสู่ท่อ

ซึ่งรางน้ำฝนจะเป็นตัวกลางที่ไม่ให้น้ำล้นบน ที่อยู่อาศัยจึงเหมาะมีรางน้ำฝนติดตั้งไว้บนยอดอาคารเพื่อประโชน์ของที่อยู่อาศัยของทุกคน

เนื่องจากรางน้ำฝนส่วนใหญ่มีการลงทุนไม่แพง และได้ควรมีจึงไม่เแปลกที่สิ่งปลูกสร้างมักจะนิยมใช้รางน้ำฝนติดสิ่งปลูกสร้างของทุกคน

รางน้ำฝน

เหตุผลสำหรับการติดตั้ง รางน้ำฝน


รางน้ำฝน นั้นจะเป็นตัวที่รับน้ำฝนที่ตกลงมาจากหลังคา ซึ่งจะมีเกือบทุกบ้าน เพราะเมืองเราอยู่พื้นที่ร้อนชื่น ก็เลยต้องมีที่รองรับน้ำฝน นั้นก็คือรางน้ำฝน นั่นเอง เพื่อรองน้ำฝนไว้ใช้ตลอดทั้งปี และในขณะนี้ก็มีบริการการติดรางน้ำฝน ให้ถึงที่ โดยที่เราไม่ต้องลำบากติดเอง ก็จ้างบริษัทมาติดตั้งให้เสร็จสับ เพื่อความง่าย แต่ถ้าใครอยากจะประหยัดเงินตรงนี้ก็สามารถซื้อมาติดเองก็ได้



วิธีทำความสะอาดรางน้ำฝน

ขั้นตอนที่ 1
ขูดเศษคราบ เศษขยะ ของสะสมของเศษดินหรือใบไม้แห้ งออกให้หมดด้วยพลั่วขุดดินขนาดเล็กที่สามารถวาง ลงในรางน้ำฝนได้ การขูดคราบขยะนั้นจะทำได้ง่ายข ณะที่ขยะนั้นยังชื้น ๆ อยู่ จะขูดออกง่าย ไม่คว รที่จะขูดขยะลงในท่อน้ำลง ควรใส่ลงถังขยะ

ขั้นตอนที่ 2
ทำความสะอาดรางน้ำให้สะอาดด้วยการนำสายยางฉีดน้ ำขึ้นมาฉีดลงในราง ถ้าคราบสกปรกที่ติดแน่นคุณสา มารถใช้เหล็กขูดหรือใช้แปรงลวดขัดให้เรียบร้อย

ขั้นตอนที่ 3
ส่วนท่อน้ำลงนั้นอาจมีสิ่งอุดตันได้ ควรใช้งูเห ล็กซึ่งเป็นสายเคเบิ้ลเพื่อทะลวงสิ่งอุดตันที่อ ยู่ภายในท่อน้ำลง ถ้าท่อน้ำลงยาวมากควรทำแบบลงล ่างและล่างขึ้นบนผสมกัน

ขั้นตอนที่ 4
ตรวจซ่อมรอยรั่วต่าง ๆ ของรางน้ำ ขณะที่ฉีดน้ำท ำความสะอาดให้สังเกตุรอยรั่วที่เกิด แล้วทำการอ ุดด้วยวัสดุอเนกประสงค์หรือประเภทซิลิโคนกันน้ำ ซึ่งการซ่อมรอยรั่วนั้นควรที่จะซ่อมทั้ง 2 ด้า นคือด้านในและด้านนอก
ขั้นตอนที่ 5
ตรวจสอบสภาพของรางน้ำว่าจุดยึดต่าง ๆ คลายตัวหรื อไม่ให้ทำการขันให้แน่นอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานแล ะตรวจดูความเอียงของรางว่าน้ำฝนสามารถลงได้สะดว กหรือไม่

รางน้ำฝน

เตรียมรางน้ำพร้อมรับหน้าฝน

ตอนนี้จะพาไปดูวิธีทำความสะอาดรางน้ำฝน และวิธีการติดตั้งรางน้ำแบบสำเร็จรูปอย่างง่ายที่เราสามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งทั้ง 2 วิธีการนี้เหมาะสำหรับบ้านที่มีชายคาต่ำ สามารถพาดบันไดขึ้นไปทำงานได้ง่าย แต่ไม่แนะนำสำหรับบ้านที่มีหลังคาสูงหรือตัวบ้านหลายชั้น เพราะหากคนทำไม่ชำนาญอาจเกิดอุบัติเหตุได้ครับ


เตรียมพร้อมทำความสะอาดรางน้ำ

รางน้ำที่เราใช้งานไปนาน ๆ เป็นไปได้ว่าอาจมีใบไม้ปลิดปลิวหล่นร่วงมาจากต้นไม้ที่อยู่ใกล้กับรางน้ำฝน หรือแม้แต่เศษถุงพลาสติก กระดาษที่อาจปลิว มาตามแรงลม รวมถึงนกบางชนิดอาจใช้รางน้ำเป็นที่ ทำรัง ทำให้รางน้ำเกิดการอุดตัน เราจึงต้องลงมือทำความสะอาดเพื่อเปิดทางให้น้ำฝนที่จะตกลงมาไหลผ่านรางน้ำได้ง่ายขึ้น ขั้นตอนการทำความสะอาดทำได้ดังนี้

  1. ให้เริ่มโกยเศษใบไม้และสิ่งอุดตันที่ค้างอยู่ ในรางน้ำออกให้หมด
  2. ขูดเศษคราบ เศษขยะ เศษดินออกให้หมด โดยใช้พลั่วขุดดินขนาดเล็กที่สามารถวางลงในรางน้ำได้ ซึ่งก่อนการขูดควรพรมน้ำให้คราบขยะเหล่านั้นมีความชื้น จะทำให้อ่อนตัวและขูดออกง่าย แล้วจึงนำคราบที่ขูดได้ทิ้งลงในถังขยะ ไม่ควรขูดขยะลงไปในท่อ น้ำลง
  3. ทำความสะอาดรางน้ำให้สะอาด ด้วยการนำสายยางฉีดน้ำลงในราง เพื่อไล่คราบสกปรกออกไป แต่หากคราบสกปรกติดแน่นมากให้ใช้เหล็กขูด หรือใช้แปรงลวดขัดคราบออกได้
  4. ขณะที่ฉีดน้ำทำความสะอาดให้สังเกตและตรวจดูว่ามีรอยรั่วเกิดที่รางน้ำบริเวณใดหรือไม่ หากพบให้ทำการอุดด้วยวัสดุอเนกประสงค์ประเภทซิลิโคนกัน น้ำทั้งด้านในและด้านนอก
  5. ตรวจสอบสภาพจุดยึดต่าง ๆ ของรางน้ำว่าคลายตัวหรือไม่ หากพบให้ขันให้แน่นอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และดูความเอียงของรางน้ำด้วยว่า น้ำฝนสามารถไหลลงมาได้สะดวกหรือไม่
  6. ในส่วนของท่อน้ำลงก็อาจมีสิ่งอุดตันได้เช่นกัน ให้ใช้งูเหล็กซึ่งเป็นสายเคเบิลในการทะลวงสิ่ง อุดตันที่อยู่ภายในท่อน้ำลง หากท่อน้ำลงยาวมากให้ทำความสะอาดทั้งแบบบนลงล่างและล่างขึ้นบนสลับกัน

การติดตั้งรางน้ำสำเร็จรูป

ปัจจุบันมีรางน้ำชนิดที่ทำสำเร็จรูปออกมาเพื่อให้นำไปติดตั้งได้ง่ายออกมามากมาย และมีรูปแบบหลากหลายน่าใช้ ขั้นตอนการติดตั้งทำได้ดังนี้

  1. กำหนดตำแหน่งและแนวการติดตั้งรางน้ำ โดยให้ร่างแบบลงบนกระดาษ จากนั้นวัดขนาดเพื่อคำนวณจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ซึ่งจะมีเส้นนรางน้ำเส้นยาว และข้อต่อเชื่อมต่าง ๆ เช่น ข้อต่อ 90 องศา ข้อต่อเชื่อมรางน้ำ ตัวต่อรางสู่ท่อน้ำลงด้านล่าง เป็นต้น
  2. ใช้เชือกตีเส้นแนวเพื่อกำหนดจุดการติดตั้งที่ชายคา โดยให้รางน้ำเอียงลาดลงในตำแหน่งที่ต้องการประมาณ 3 หุน ทุก ๆ 4 เมตร แล้วยึดตัวเกี่ยวที่ใช้ยึดรางเข้ากับแนวเส้นที่ตีไว้ด้านบนด้วยสกรูขนาด 1.5 นิ้ว ทุก ๆ ช่วงเมตร จากนั้นนำขาตัวยึดรางประกบเข้ากับรางน้ำ นำมาแขวนกับตัวเกี่ยวรางที่ยึดไว้กับชายคาก่อนหน้านี้
  3. ต่อรางน้ำฝนเส้นต่อไปโดยให้ประกอบเข้า กับตัวเชื่อมต่อรางหุ้มทั้งด้านในและด้านนอก จนครบตามตำแหน่งที่ต้องการ เมื่อถึงช่วงสุดท้ายให้วัดระยะที่เหลือ แล้วตัดขนาดรางน้ำฝนด้วยเลื่อยตัดเหล็กเท่ากับระยะที่วัดเอาไว้ แล้วจึงปิดหัวรางด้วยตัวปิดหัว
  4. การต่อท่อน้ำลง ให้ต่อจากตำแหน่งที่ยึดเข้ากับชายคา ตรวจดูให้ได้ระดับพอดีกับขนาดรางน้ำ จึงวางทาบแล้วยึดด้วยตัวต่อราง จากนั้นให้ติดตัวกันใบไม้ใน จุดที่ต้องการปิด ป้องกันไม่ให้ใบไม้เข้าไปอุดตัน
  5. นำข้อต่อท่อราง 135 องศา มาวางทาบกับผนังให้ได้แนวตรง แล้ววัดขนาดท่อน้ำลงต่อจากแนวชายคา ขีดเส้นและตัดขนาดท่อด้วยเลื่อยตัดเหล็ก นำไปต่อเข้ากับข้องอ ส่วนบริเวณผนังที่ลงพื้นให้รัดท่อด้วยตัวรัดท่อลง

ป้องกันเศษขยะ-ใบไม้ อุดตันรางน้ำฝน

มีความเป็นไปได้มากที่ท่อรับน้ำฝนจะอุดตัน อันเนื่องมาจากการสะสมของเศษใบไม้ และเศษอื่น ๆ การป้องกันไม่ให้สิ่งไม่พึงประสงค์เหล่านี้มาอุดตัน จะใช้เหล็กตะแกรงที่มีรูขนาดเล็กมาปิดทับตลอดปากรางรับน้ำฝน หรือม้วนให้มีขนาดพอดีกับรางรับน้ำฝน แล้วใส่เข้าไปในรางรับตลอดแนว การทำเช่นนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้มีเศษวัสดุมาอุดตันได้

เพียงเท่านี้คุณก็ได้รางน้ำสำหรับพร้อมใช้ในหน้าฝนแล้วครับ

ที่มา

จะติดตั้งรางน้ำฝนหรือเปล่า

อีกเรื่องหนึ่งที่เจ้าของบ้านต้องตัดสินใจในระหว่างการก่อสร้างบ้าน หลังจากมุงหลังคาเสร็จเรียบร้อยนั่นก็คือ “จะติดตั้งรางน้ำฝนหรือเปล่า”

ที่ลังเลใจเพราะว่า...ถ้าไม่ติด...น้ำฝนก็จะไหลลงมาที่พื้นดินด้านล่างเลอะเทอะไปหมด หรือไม่ก็จะกระเด็นไปรบกวนเพื่อนบ้าน

แต่ถ้าติด...ก็ต้องคอยหมั่นขึ้นไปเก็บกวาดใบไม้ที่ปลิวไปกอง ไม่อย่างนั้นท่อระบายน้ำก็อาจจะอุดตัน หรือไม่ก็ทำให้รางน้ำล้นจนน้ำไหลทะลักเข้ามาในบ้าน ทำฝ้าเพดานถล่มกันไป อีกอย่าง ที่ระดับความสูงบ้านขนาดนั้น ก็มีความเสี่ยงในการปีนป่ายกันอีก...ลำบากใจจังเลยนะคะ

powerwashing-gutter.jpg

สำหรับเจ้าของบ้านที่ไม่ต้องการติดตั้งรางน้ำฝน อาจจะเล็งแนวตำแหน่งที่ฝนตกลงมา แล้วทำเป็นพุ่มไม้ หรือทำรางระบายน้ำที่พื้นดิน เพื่อช่วยบรรเทาการกระเด็นของน้ำฝน ไม่ให้เลอะเทอะไปโดนผนังบ้านค่ะ หรือทำบ่อน้ำรอบบ้าน ประมาณว่าเป็นบ้านกลางน้ำเลยก็ดีนะคะ สวยและเย็นไปอีกแบบ

on-ground-french-drain.jpg
ทำรางน้ำบนดินตามแนวชายคาหลังคา

the-cool-pond.jpg

ส่วนเจ้าของบ้านที่ตัดสินใจว่าจะติดตั้งรางน้ำฝน ก็ควรจะติดตั้งแผ่นตะแกรงป้องกันใบไม้ครอบบนรางไว้นะคะ ซึ่งปัจจุบันก็มีจำหน่ายสำเร็จรูปแล้วด้วยค่ะ

gumleaf-gutter-guard-on-tile.jpg145815370_3941158d5a.jpg
และท่อระบายน้ำจากรางน้ำฝน ก็เป็นของสวยงามได้นะคะ ถ้าเรารู้จักออกแบบ เหมือนอย่างบ้านนี้ไงคะ...

dresdengutter.jpg

จำเป็นไหมนี่ที่ต้องมีรางน้ำฝน

ก่อนหน้านี้ก็ไม่เข้าว่า ทำไมต้องติดรางน้ำฝนล่ะ พอเข้าหน้าฝนเท่านั้นล่ะถึงรู้ว่า ไม่ได้แล้ว ฉันอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว เพราะฝนตกหนักน้ำก็สาดเข้าบ้าน ปัญหาตามมาก็คือความชื้น ยิ่งบ้านไม้อย่างบ้านเราแล้วล่ะก็ สิ่งที่ตามมาก็คือ กระดานไม้เริ่มจะบวมอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีของแถมคือ เจ้า ป.ปลวก อีกต่างหาก เลยต้องรีบหาช่างมาติดรางน้ำฝนโดยด่วน สนนราคาก็ตกเมตรละ 300 บาท เป็นแบบสังกะสีธรรมดา



ตอน แรกจะเอาแบบสแตลเลส ดูมันนี่ในกระเป๋าชักไม่ไหว ราคาต่างกันสองเท่ากว่าแนะ (ราคาสแตนเลสเมตรละ 1000 บาท) ถามช่างเค้าบอกว่าถ้างบน้อยเอาสังกะสีก็พออยู่ได้เกินสิบปีอ่ะ ช่วงนี้สภาพเศรษฐกิจแย่ประหยัดไว้ก่อนดีกว่าเรา



ก็ ตกลงกับช่างเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากช่างทุนน้อยขอมัดจำไว้ก่อน 2000 บาท นัดมาทำในวันถัดไป พอเช้าอีกวันมาถึงเลยเวลานัดที่ตกลงกันไว้ ก็เลยโทรไปตามช่างไม่รับโทรศัพท์ เริ่มใจเสียแล้ว เราก็ไม่รู้จักช่างคนนี้ซะด้วย แต่ยังอุ่นใจที่ลุงรู้จักบ้านเค้า สักพักก็โทรไปใหม่ช่างบอกว่า ผมมาต่างจังหวัด เดี๋ยวไปทำให้อีกสองวัน ซะงั้น งงไปเลย ไม่บอกไม่กล่าว แต่ก็ไม่เป็นไรเราคนบ้านเดียวกัน ก็รออีกสองวันผ่านไป ช่างก็มาติดตั้งให้เป็นที่เรียบร้อย แต่ตอนที่ช่างมาติดเราไม่ได้อยู่ดูด้วยหรอก กลับมากรุงเทพฯ เสียก่อน



ใน ใจก็คิดว่า เอานะมันถูกอ่ะนะ ก็คงได้ตามสภาพอ่ะแหละ แต่ที่ไหนได้ พอกลับมาบ้านอีกครั้ง งานดีกว่าที่เราคิดไว้เสียอีก เก็บให้เรียบร้อยเลย ถึงแม้จะเป็นสังกะสีก็ดูเข้าท่าดี ทำไป 17 เมตร ตกลงกันไว้ที่ 5000 บาท ก็เป็นที่พอใจ ค่อยโล่งใจหน่อย



และ ด้วยความที่เตี่ยเราเป็นเจ้าพ่อไอเดียอยู่แล้ว ก็เลยดัดแปลงจากที่ต้องปล่อยน้ำทิ้งโดยใช้กรวยต่อสายยางลงมา ก็เปลี่ยนเป็นใช้ท่อพีวีซีต่อลงมา แล้วก็ปล่อยน้ำลงท่อใหญ่ที่ฝั่งอยู่ใต้ดินแทน ก็ดูเรียบร้อยดี และที่สำคัญน้ำไม่ขังด้วยล่ะ จะว่าไปแล้วการทำบ้านหนึ่งหลังใช่ว่ามันจะจบลงง่ายๆ สารพัดเลยล่ะเดี๋ยวต่อนั่นเติมนี่ ป้าก็ร่ำๆ จะเติมหลังคาหลังบ้านอีกล่ะ แต่ก็ดีนะทำนั่นเติมนี่ก็ดี เราจะได้มีเรื่องเขียนได้อีกหลายตอนเลยล่ะ หุหุ


10 เทคนิคดูแลบ้านหน้าฝน




10 เทคนิคดูแลบ้านหน้าฝน (momypedia)

แม้ปีนี้ฤดูฝนบ้านเจะมาช้าสักหน่อย แต่ดูท่าว่าจะกินระยะเวลายาวทีเดียว และที่แตกต่างจากทุก ๆ ปี คือนอกจากฝนตกชุกแล้วยังมาพร้อมกับพายุลมแรง ซึ่งอาจก่อความเสียหายให้บ้านหลังงามของคุณได้ เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น เราจึงมีเทคนิคดูแลบ้านในช่วงหน้าฝนอย่างง่าย ๆ มาฝาก รับรองว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงคุณสาว ๆ แน่นอน

1. หมั่นเช็กการรั่วซึมของหลังคา ฝ้า ผนัง การรั่วซึมของหลังคาหรือผนัง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ และส่วนใหญ่มักจะทราบเมื่อเกิดปัญหามาได้สักระยะหนึ่งแล้ว วิธีตรวจสอบง่าย ๆ คือ หมั่นสังเกตรอยรั่วซึมแตกร้าวของหลังคา ฝ้าเพดานและฝาผนัง หรือรอยต่อของวัสดุต่างๆ เช่น ขอบหน้าต่างว่ามีคราบรอยน้ำหรือไม่ ถ้าพบว่ามีการแตกร้าวหรือรั่วซึมจริงให้รีบติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญมาซ่อมให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยทิ้งไว้

2. ดูแลรางน้ำฝน อย่าปล่อยให้รางน้ำฝนมีเศษใบไม้ หรือขยะอุดตัน เพราะเวลาฝนตกหนักๆ อาจจะทำให้น้ำไหลย้อนเข้าไปรั่วภายในบ้านได้

3. ล้างท่อระบายน้ำ หมั่นตักขยะ เศษใบไม้ เศษดิน ขี้โคลน ออกจากบ่อดักขยะในบ้านของคุณ รวมทั้งล้างบริเวณระเบียง หรือเฉลียง เพื่อป้องกันไม่ให้ท่อระบายน้ำอุดตัน

4. ขยันขัดพื้น หลังฝนตก ควรขัดล้างพื้นรอบ ๆ บ้านอย่าให้มีตะไคร่จับ หรือเป็นคราบดิน อันเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ลื่นหกล้มได้ง่าย

5. คว่ำภาชนะที่ไม่ใช้ ภาชนะจำพวกถังน้ำที่วางอยู่นอกตัวบ้าน ควรจับวางคว่ำไว้ เพื่อไม่ให้มีน้ำขัง และกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออก

6. ตัดกิ่งไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ตัวบ้านให้สั้นเข้าไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้กิ่งไม้หักโดนตัวบ้าน เวลามีลมพายุแรง ๆ และป้องกันไม่ให้สัตว์เลื้อยคลานใช้เป็นทางเดินเข้าสู่ภายในบ้าน ข้อนี้อาจต้องพึ่งคนสวน เพื่อนหนุ่มหรือคุณสามี

7. ทำไม้ค้ำยันให้ต้นไม้ บ้านที่เพิ่งปลูกต้นไม้ใหญ่ ควรทำไม้ค้ำยันต้นไม้ไว้ เพื่อให้ลำต้นตั้งตรง ไม่เอนเอียง หรือโค่นล้ม เมื่อมีลมพัดมาแรง ๆ และช่วยทำให้รากต้นไม้สามารถแผ่ขยายได้อย่างรวดเร็วด้วย

8.ย้ายเฟอร์นิเจอร์สนามหลบฝน เมื่อฝนตกบ่อย ๆ ขึ้น ชุดเฟอร์นิเจอร์สนามที่คุณเคยใช้นั่งเล่นกินลม คงไม่เหมาะที่จะใช้งานต่อไป ทางที่ดีควรหาที่จัดเก็บเพื่อหลบฝนหรือใช้ผ้าใบคลุมไว้

9.บ้านที่โล่งโปร่งสบายในหน้าร้อน เมื่อถึงฤดูฝนควรทำชายคา หรือกันสาดยื่นออกมาเพื่อกันไม่ให้ฝนสาดเข้าไปกระทบกับช่องเปิดพวกบรรดาประตู หน้าต่าง หรือผนังบ้านในส่วนต่าง ๆ เพื่อป้องกันการผุพัง คราบเชื้อรา หรือคราบตะไคร่น้ำจับเกาะบริเวณผนัง

10. ปลูกต้นไม้ใหม่หรือย้ายต้นไม้ในกระถางลงดิน ต้นฤดูฝนเป็นเวลาที่เหมาะกับการปลูกต้นไม้ใหม่ ๆ ให้กับสวนของคุณ โดยเฉพาะการลงต้นไม้ขนาดใหญ่ ควรทำในช่วงนี้ เพราะอากาศมีความชื้นสูง และมีน้ำฝนมาช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ดิน ใบไม้จึงระเหยน้ำไม่มาก ต้นไม้จะมีโอกาสรอดสูง

ถ้าคุณทำได้หมดทุกข้อ รับรองว่าหน้าฝนนี้ถึงจะไม่ค่อยได้ออกไปไหน ๆ แต่คุณก็สามารถอยู่บ้านได้อย่างมีความสุขแน่นอน...

รางน้ำฝน-เรื่องที่คนมีบ้านต้องรู้ไว้



เมื่อพูดถึงปัญหาบ้านในหน้าฝนแล้ว ปัญหารางน้ำฝนระบายน้ำไม่ดีถือเป็นปัญหาที่จะมองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว เพราะปัญหานี้ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่อาจจะทำให้เจ้าของบ้านหลาย ๆ คนถึงกับกุมขมับกันมาแล้ว ยิ่งเข้าสู่ช่วงหน้าฝนด้วยแล้วอย่างนี้ เชื่อแน่ ๆ ว่าหลาย ๆ บ้านอาจจะกำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ก็เป็นได้

โดยทั่ว ๆ ไปแล้วปัญหารางน้ำที่เจ้าของบ้านมักจะพบเจอก็คือ

  • รางน้ำอุดตัน
  • รางน้ำชำรุด
  • รางน้ำไม่เข้ากับตัวบ้าน

ปัญหารางน้ำอุดตันนั้น สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ แค่เพียงเจ้าของบ้านหมั่นตรวจสอบรางน้ำอยู่เสมอ ๆ ไม่ให้มีใบไม้เข้าไปอุดตัน หรืออาจจะแก้ไขได้ด้วยการนำลวดตะแกรงสี่เหลี่ยมมาดัดเป็นรูปตัวยู แล้วคว่ำลงไปที่รางน้ำแค่นี้ก็สามารช่วยลดปัญหาใบไม้อุดตันท่อน้ำได้แล้ว

ปัญหารางน้ำชำรุด ก็ต้องอาศัยการหมั่นตรวจสอบสภาพรางน้ำของตัวเองว่าอยู่ในสภาพใช้งานได้เต็มที่หรือไม่ หากมีร่องรอยชำรุดควรรีบจัดการแก้ไข

ปัญหารางน้ำไม่เข้ากับตัวบ้านนั้น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะละเลยไม่ได้เลย เพราะหากท่อรางระบายน้ำเล็กเกินไปก็อาจจะทำให้ท่อรางน้ำระบายน้ำไม่ทัน หรือหากรางน้ำใหญ่เกินไปก็อาจจะทำให้เกิดความไม่สมดุลกับตัวบ้านได้เช่นกัน นอกจากนี้การปรึกษาผู้เชียวชาญในการติดตั้งรางน้ำก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะปัจจุบันรางน้ำมีการผลิตจากวัสดุที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นไวนิล ไฟเบอร์กลาส อลูมิเนียม สแตนเลส สังกะสี PVC UPVC หรือเหล็กกาวาไนซ์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะสามารถแนะนำรางน้ำที่เหมาะกับความต้องการของเราได้เป็นอย่างดี

ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงเท่านี้ไม่ว่าฝนไหน ๆ จะกระหน่ำลงมาบ้านของคุณก็จะปลอดภัย ไม่มีปัญหาท่อรางน้ำฝนมากวนใจอีกเลย

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การทำความสะอาดอ่างล้างจานสแตนเลส

อ่างล้างจานที่มีคราบขาวและคราบอาหารติด ดูไม่น่าใช้ให้ผสมเบคกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชู คนให้เข้ากัน แล้วทาลงบนอ่างขัดด้วยผ้าขนหนูเก่า หรือ ฟองน้ำล้างให้สะอาด ความเงางามก็จะกลับมาเหมือนเดิม

ส่วนผสมที่ใช้ไม่หมดให้เติมน้ำส้มสายชูอีก 1/4 ถ้วย แล้วเทลงไปในท่อน้ำทิ้ง ประมาณ 15 นาที จะเป็นฟองขึ้นมา แล้วจึงเปิดน้ำล้างอีกที ควรจะทำเป็นประจำทุกเดือนนะคะ ท่อน้ำทิ้งของท่านจะได้ไม่ตัน และที่สำคัญก่อนจะล้างจานควรกวาดเศษอาหารให้หมดจากจานก่อนนะคะ

เป็นวิธีทำความสะอาดแบบง่ายๆ ค่ะ ลองไปทำดูนะค่ะได้ผลอย่างไรบอกต่อด้วยค่ะ

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ลูกหมุนระบายอากาศ



ความร้อนหรือความชื้นที่อยู่ภายในอาคาร
หากไม่มีการติดตั้งลูกหมุนระบายอากาศ ความร้อนหรือความชื้นจะหมุนเวียนอยู่ภายในตัวอาคาร ทำให้ตัวอาคารมีความร้อนหรือความชื้นสูงขึ้นเรื่อยๆ

แต่ถ้ามี การติดตั้งลูกหมุน เข้ากับตัวอาคาร ลูกหมุนจะช่วย ระบายความร้อน หรือความชื้นจากภายในตัวอาคารสู่ภายนอก ทำให้ความร้อนหรือความชื้น ภายในตัวอาคารลดลงอยู่ในระดับสมดุล

ช่วยระบายความร้อน
ลูกหมุนระบายอากาศ สามารถตั้งตั้งได้กับ หลังคาเมทัลชีท ,หลังคากระเบื้องลอนคู่ , หลังคากระเบื้องลูกฟูก , หลังคาตู้คอนเทนเนอร์ หรือสั่งทำฐานพิเศษตามแบบได้
ถ่ายเทความชื้น

การคำนวณจำนวนลูกหมุน
พื้นที่การติดตั้ง 20 ตรม. / 1 จุด



การติดตั้งลูกหมุนระบายอากาศ
1. เจาะช่องหลังคาเมทัลชีท ใหญ่กว่าลูกหมุนเล็กน้อย โดยเหลือช่องว่างไว้สำหรับติดลูกหมุนระบายอากาศ
2. ทดลองวางฐานลูกหมุนระบายอากาศ ให้พอดี โดยซ้อนทับตามวิธีการมุงหลังคาเมทัลชีท ทั่วไป
3. เมื่อทดลองว่าพอดีแล้ว ยกฐานลูกหมุนระบายอากาศออก เพื่อซีลซิลิโคน โดยรอบฐานไฟเบอร์และวางลงในตำแหน่งเดิม ยึดด้วยสกรูให้เรียบร้อย นำลูกหมุนระบายอากาศ วางบนฐานไฟเบอร์กลาส แล้วปรับให้ได้ตำแหน่งระดับน้ำ ทั้ง 4 ด้าน
4. ยิงรีเวท ขนาด 6-6 หรือใช้สกรูเกลียวปล่อยยึดรอบคอลูกหมุน ทั้ง 4 ด้าน ท่านจะได้ลูกหมุนระบายอากาศ พร้อมฐานที่แข็งแรง และใช้งานได้อย่าง ยาวนาน

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Laptop computer

ราชบัณฑิต (Laptop computer) ให้เรียกแล็ปท็อปว่าคอมพิวเตอร์วางตัก
ผมมองว่าคำว่า Lap ไม่ได้ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงตัก แต่ควรจะป็น พับมากว่า

ขอบคุณครับ
Sangkasi.com